
ลูกรักพ่อเข้าใจความทุกข์ของลูก ที่มีสาเหตุจากการโยกย้ายสับเปลี่ยนหน้าที่การงาน แต่พ่อจะไม่บอกลูกว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะพ่อรู้อยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งเหตุการณ์นี้ต้องเกิดขึ้นกับลูก และอาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวในชีวิตการทำงานของลูก พ่อไม่ได้เล่าเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะอยากให้ลูกได้เจอประสบการณ์ตรงลูกจะได้เรียนรู้ชีวิตขึ้นอีกเยอะ มันไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้ายจนทำลายชีวตหรืออนาคตหรอก ถ้าลูกรู้จักแก้ปัญหา และหาทางออกที่ถูกต้องได้ลูกรู้อยู่แล้วว่าช่วงชีวิตการทำงานของคนเรายาวนานเพียงใด ตั้งแต่อายุประมาณ 20-60 ปี บางทีอาจยาวกว่าช่วงชีวิตวัยเด็กรวมกับวัยชราเสียอีก มันเป็นช่วงเวลาที่เราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จากบุคคลซึ่งเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ เราไม่รู้จักนาย นายไม่รู้จักเราดีเหมือนพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนสนิทแล่ยังมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องในการทำงานอีก แล้วจะใช้ชีวิตในการทำงานของลูกราบรื่นดังถนนที่ดรยด้วยกลีบกุหลาบได้อย่างไร อาจมีคนหนึ่งในล้านเท่าน้น ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตลอดเวลา พร้อม ๆ กับความสุขในชีวิตส่วนตัว คนส่วนใหญ๋ต้องผ่านต้องผจญความทุกข์ ความผิดหวังด้วยกันทั้งนั้น คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ต้องมีวิแก้ปัญหาและหาทางออกที่เหมาะสมกับสถาการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้นเมื่อมีปัญหาหรือความทุกข์เกิดขึ้น อย่างแรกที่ลูกควรนึกถึงคือ การแก้ปัญหาหรือการดับทุกข์ ถ้าเป็นวิธีทางวทยาการจัดการ ก็เอาวิธีการแก้ปัญหาจากวิชาการบริหารงานมาใช้ ถ้าเป็นวิธีทางธรรมะ ให้ลูกเอาหลักอริยสัจ 4 ของพระพธทเจ้ามาใช้ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตามลูกจะได้พบกับความจริงที่เกิดขึ้นข้อสำคัญคืออย่าเข้าข้างตัวเองว่าเป็นคนที่ถูกต้องเสมอ
แนวความคิด
หากจะแก้ไขสิ่งที่คิดว่าผิดที่ตัวเขา กับสิ่งที่คิดว่าผิดที่ตัวเรา อย่างไหนแก้ได้ง่ายกว่ากัน ถ้าเขาผิดแล้วเราไปบอกให้เขาแก้ไขง่ายนักหรือที่เขาจะทำตามในที่สุดเขาจะได้รับการลงโทษในรูปแบบไหนก็ช่างเถอะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น