ลูกพูดกับพ่อว่า"ทำไม่พ่อไม่ชิดซ้ายล่ะ เดี๋ยวต้องไปเบียดรถเลนซ้ายหรอก เพราะเราต้องเลี้ยวซ้ายที่ทางแยกข้างหน้า"จากน้ำเสียงของลูก บ่งบอกว่าพ่อขับรถไม่รักษากฏจราจร พ่อฟังแล้วก็อยากจะตอบลูกกลับไปว่า ลูกไม่ตำหนิพ่อเร็วไปหน่อยหรือ เพราะพ่อเพิ่งขับรถลงมาจากสะพานข้ามทางแยก และยังอยู่ในทางวิ่งขวา ถ้าจะเบนเข้าหาทางวิ่งซ้ายทันทีคงจะไม่ได้ พ่อต้องรอดูจังหวะความปลอดภัยจากรถที่วิ่งอยู่ทางซ้ายเสียก่อนแต่พ่อไม่ได้ตอบลูกไป เพราะพ่อรู้สึกว่า ลูกเราเป็นที่เข้าใจและทำตามกฏกติกาที่วางไว้ ซึ่งพ่อเห็นว่านั่นเป็นสิ่งดี แต่แวบหนึ่งที่เกิดขึ้นในสมองพ่อและพ่ออยากจะกล่าวกับลูกก็คือ ลูกเคยเจอบ้างไหมที่ลูกขับรถอย่างถูกต้องตามกฏจราจร เช่น เมื่อรู้ว่าจะต้องเลี้ยวซ้ายที่ทางแยกข้างหน้าลูกก็เริ่มขับรถชิดซ้ายเสียแต่เนิ่นๆ จนบางครั้งต้องต่อท้ายรถคันอื่นเป็นแถวยาว ในขระที่รถที่วิ่งทางตรงไม่ติด แต่อยู่ๆ ก็มีรถในช่องวิ่งทางตรงปาดหน้าเบียดเข้ามาใกล้ทางแยกเพื่อจะเลี้ยวซ้ายเหมือนกัน ถ้าเราไม่เบรกหรือเบรกไม่ทันก็เกิดเรื่อง เสียทั้งอารมณ์ เวลาและเงินทอง มีบางครั้งที่พ่อไม่ยอมให้เบียดเข้ามา พร้อมกับกดแตรยาวติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อเป็นการปะจานให้คนอื่นรับรู้ และเมื่อพ่อสบตากับคนขับรถคันนั้นแล้ว เขากลับมองพ่ออย่างโกรธเคือง มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเปิดกระจกแล้วตะโกนออกมาว่า "ไม่มีน้ำใจ"แนวความคิด
การมีน้ำใจในเรื่องต่างๆควรมี แต่ไม่ใช่กับคนที่ไม่ควรทำเพราะนั่นเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้คนที่เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบคนอื่นโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น